เทคนิค Non-Penile Inversion
เทคนิค Non-Penile Inversion ในการศัลยกรรมแปลงเพศจากชายเป็นหญิง
การศัลยกรรมแปลงเพศโดยนายแพทย์เชฏฐวุฒิ เป็นการผ่าตัดแบบเสร็จสิ้นในขั้นตอนเดียวด้วยการใช้เทคนิค Non-Penile Inversion ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทำให้ผลลัพธ์ของการศัลยกรรมมีลักษณะเหมือนอวัยวะจริงของเพศหญิงมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการนำผิวหนังจากองคชาตและหนังหุ้มปลายมาใช้สร้าง Labia Minora (แคมเล็ก) ให้ได้รูปทรง ซึ่ง Labia Minora ที่ถูกสร้างขึ้นมักมีสีชมพูและขยายไปจนถึงฐานของ Vulva Vestibule เพื่อกลายเป็น Posterior Fourchette ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับลักษณะแคมในของผู้หญิง นอกจากนี้ แพทย์จะสร้างให้ปากช่องคลอดมีรูปทรงที่เป็นธรรมชาติและเป็นแนวตรงเพื่อลักษณะที่ดูสมจริงมากที่สุด โดยที่ยังคงประสิทธิภาพในการขยายตัวอย่างเหมาะสมเพื่อรองรับการมีเพศสัมพันธ์และการขยายช่องคลอดด้วยแท่งไดเลชั่นขนาดต่าง ๆ การศัลยกรรมแปลงเพศจะใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ศัลยแพทย์จะทำการเย็บแผลอย่างพิถีพิถันที่สุดเพราะฝีเย็บที่สวยงามจะส่งผลกับโครงสร้างอวัยวะเพศใหม่ โดยจะทำให้มีแผลเป็นน้อยที่สุด
ความลึกและการใช้อวัยวะเพศใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม
แพทย์จะทำการเลาะโพรงช่องคลอดเพื่อสร้างความลึกให้มากที่สุด โดยสามารถได้ความลึกถึง 6.5 – 7 นิ้ว แม้คนไข้จะมีอวัยวะเพศเล็กและสั้น เมื่อปลายหนังหุ้มไม่ได้ถูกสอดกลับเข้าไปในช่องคลอด ผนังช่องคลอดจึงถูกสร้างขึ้นจากถุงอัณฑะและ/หรือการปลูกถ่ายผิวหนังจากบริเวณต้นขาเท่านั้น และจะไม่มีเส้นขนหลงเหลืออยู่เลย เพราะแพทย์จะทำการกำจัดรากขนทั้งหมดในขั้นตอนการเตรียมการปลูกถ่ายผิวหนัง
คุณสมบัติในการหล่อลื่นด้วยตัวเองอาจเกิดขึ้นได้จากต่อมสารคัดหลั่งบริเวณรอบท่อปัสสาวะและปากช่องคลอดที่ถูกรักษาไว้ รูเปิดของหลอดปัสสาวะจะถูกจัดให้อยู่เหนือปากช่องคลอดซึ่งเป็นตำแหน่งที่ถูกต้องตามหลักกายวิภาค ทำให้ปัสสาวะสามารถไหลได้ตามรูปแบบอวัยวะเพศหญิง ส่วนเนื้อเยื่อ Spongiosum บริเวณรอบท่อปัสสาวะจะถูกผ่าออกทั้งหมดเพื่อป้องกันการเกิดเลือดคั่งเมื่อถูกกระตุ้นทางเพศ ซึ่งจะทำให้ปากช่องคลอดแคบลงหรือก่อให้เกิดปัญหาในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ได้
ความรู้สึก
ศัลยแพทย์จะรักษาเส้นประสาทในการรับความรู้สึกที่เฉพาะเจาะจงเอาไว้เพื่อให้คนไข้สามารถมีความรู้สึกทางเพศและสามารถถึงจุดสุดยอดได้ตั้งแต่หลังการผ่าตัดแปลงเพศไปเพียงไม่นาน Clitoris (คลิตอริส) ใหม่ที่ถูกสร้างจากส่วนหลังของส่วนหัวองคชาตถือเป็นอวัยวะหลักที่ให้ความรู้สึกเพราะถูกปกคลุมด้วยเส้นประสาท ส่วน Vulva Vestibule ที่ถูกสร้างจากส่วนบนส่วนหัวขององคชาตถือเป็นอวัยวะรองที่ให้ความรู้สึกเพราะถูกปกคลุมด้วยเส้นประสาทเช่นกัน
นอกเหนือจากเส้นประสาทรับความรู้สึกต่าง ๆ แพทย์จะทำการรักษาเส้นประสาทรับความรู้สึกที่เฉพาะเจาะจงไว้อีก 3 เส้นด้วยกัน และจะปกคลุมไปยังโครงสร้างอวัยวะเพศที่ถูกสร้างขึ้น ได้แก่ บริเวณ Clitoral Hood (กลีบคลุมปุ่มกระสัน) Clitoral Frenulum (แฉกด้านล่างจรดกันใต้คลิตอริส) Labia Minora (แคมเล็ก) รวมถึงผนังช่องคลอดที่ติดกับต่อมลูกหมากที่ยังใช้งานได้ตามปกติ (เทียบได้กับบริเวณ G-Spot ของร่างกายผู้หญิง) โดยการถึงจุดสุดยอดจากบริเวณ Clitoris (คลิตอริส) จะแตกต่างจากการถึงจุดสุดยอดจากในช่องคลอดเพราะเป็นเส้นประสาทคนละชุดกัน
ส่วนประกอบของอวัยวะเพศหญิง
เทคนิค Non-Penile Inversion เป็นการศัลยกรรมแปลงเพศจากชายเป็นหญิงที่เสร็จสิ้นในขั้นตอนเดียว ทำให้ปากช่องคลอดออกมามีความสวยงาม คนไข้สามารถมีเพศสัมพันธ์และใช้งานช่องคลอดได้อย่างเป็นธรรมชาติ ขั้นตอนการสร้างอวัยวะเพศหญิงแต่ละส่วนจะเป็นไปอย่างประณีต มีรายละเอียดดังนี้
- Mon Veneris (หัวหน่าว)
Mons Pubis (เนินหัวหน่าว) ในเพศหญิง คือ เนินที่มีลักษณะกลมมน อยู่บริเวณสุดกระดูกหัวหน่าว ขนาดของหัวหน่าวของแต่ละคนจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับจำนวนเนื้อเยื่อไขมันในเนินหัวหน่าวซึ่งมีความไวต่อฮอร์โมนเอสโตรเจน หลังการศัลยกรรมแปลงเพศ หัวหน่าวจะเป็นส่วนที่มีเส้นประสาทและหลอดเลือด และมีเส้นเลือดและปลายประสาทที่มีส่วนในการทำให้ Clitoris และโครงสร้างที่สำคัญต่าง ๆ ในบริเวณ Vulva Vestibule ให้ไวต่อความรู้สึกเป็นอย่างมาก
- Clitoral Hood (กลีบคลุมปุ่มกระสัน)
Clitoral Hood เป็นผิวหนังที่ปกคลุมรอบ Clitoris เป็นส่วนที่สำคัญเพราะไม่เพียงช่วยปกป้อง Clitoris แต่ยังช่วยให้คนไข้รับความรู้สึกเมื่อถูกกระตุ้นทางเพศได้ เพราะเทคนิค Non-Penile Inversion ของนายแพทย์เชฏฐวุฒิจะยังคงเส้นประสาทรับความรู้สึกพิเศษเอาไว้เป็นตัวกระตุ้นความรู้สึกบริเวณนี้โดยตรง แพทย์จะใช้หนังหุ้มปลายองคชาติซึ่งเป็นเนื้อเยื่อสีชมพูเพื่อทำให้อวัยวะส่วนนี้ดูมีความเป็นธรรมชาติเหมือนอวัยวะเพศหญิง
- Clitoris (คลิตอริส)
Clitoris จะถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมตามกายวิภาคและไม่สูงหรือต่ำเกินไป และจะถูกออกแบบให้มีลักษณะตามธรรมชาติของผู้หญิง โดย Clitoris จะถูกออกแบบให้มีขนาดใกล้เคียงกับของผู้หญิง นอกจากคนไข้จะเป็นผู้แสดงความต้องการ Clitoris ที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย และที่สำคัญ คนไข้จะสามารถถึงจุดสุดยอดในการมีเพศสัมพันธ์ได้ เพราะ Clitoris จะถูกสร้างจากส่วนที่ไวต่อความรู้สึกมากที่สุดจากส่วนหัวขององคชาต โดยทำหน้าที่ส่งความรู้สึกทางเพศจากเส้นประสาทที่อยู่บริเวณส่วนหลังของ Clitoris
- Clitoral Frenulum
Clitoral Frenulum คือ ชั้นเนื้อเยื่อขนาดเล็กที่มีลักษณะพับซ้อนกัน ถูกสร้างจากหนังหุ้มปลายซึ่งเป็นจุดที่ผสาน Labia Minora และส่วนล่างของ Clitoris เข้าด้วยกัน Clitoral Frenulum จะไวต่อความรู้สึกเช่นกันเพราะปลายประสาทส่วนหลังถูกนำมาจาก Clitoris
- Vulva Vestibule
Vulvar Vestibule เป็นส่วนที่อยู่ระหว่างปากช่องคลอดและแคมเล็ก ศัลยแพทย์จะสร้างส่วนบนของ Vulvar Vestibule ด้วยการใช้ผิวหนังที่รับความรู้สึกได้จากเส้นประสาท และสร้างส่วนล่างของ Vulvar Vestibule ด้วยการใช้เนื้อเยื่อจากท่อปัสสาวะที่มีสีชมพู ช่วยทำให้ Vestibule ดูมีความสวยงามมากขึ้น
- Labia Minora/ Inner Labia (แคมเล็ก/ แคมใน)
Labia Minora หรือแคมเล็ก คือ แผ่นเนื้อสองฝั่งบริเวณปากช่องคลอด อยู่ระหว่าง Labia Majora (แคมใหญ่) สีของ Labia Minora อาจเป็นสีชมพูอ่อนสำหรับคนไข้ที่มีหนังหุ้มปลายสีชมพู ความยาวและขนาดของ Labia Minora จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพของหนังหุ้มปลาย ซึ่งมีความแตกต่างกันในคนไข้ที่ผ่านการขลิบหนังหุ้มปลายแล้วและคนไข้ที่ยังไม่ผ่านการขลิบหนังหุ้มปลาย ด้วยเทคนิค Non-Penile Inversion หนังจากองคชาตและหนังหุ้มปลายจะถูกนำไปใช้สร้างโครงสร้าง Labia Minora ที่ดูสวยงาม Labia Minora ที่สร้างขึ้นจะประกอบไปด้วยปลายประสาทมากมาย ช่วยสนับสนุนความรู้สึกทางเพศให้แก่คนไข้
- Labia Majora/ Outer Labia (แคมใหญ่/ แคมนอก)
Labia Majora ของผู้หญิงมีความคล้ายคลึงกับถุงอัณฑะของผู้ชาย ในการศัลยกรรม แพทย์จะนำผิวหนังจากถุงอัณฑะและเนื้อเยื่อไขมันมาใช้ในการสร้าง Labia Majora ซึ่งจะดูเป็นธรรมชาติทั้งในมุมนอนและยืน หลังจากสร้างแคมใหญ่แล้ว หนังหุ้มอัณฑะที่เหลือจะถูกนำมาใช้ในการสร้างโพรงช่องคลอดอีกด้วย
- Urethral Opening (รูเปิดท่อปัสสาวะ)
การสร้าง Urethral Opening ขึ้นใหม่ร่วมกับการกำจัดเนื้อเยื่อ Corpus Spongiosum ที่อยู่รอบ ๆ ทั้งหมดเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญมากในการศัลยกรรมแปลงเพศ ในการผ่าตัด รูเปิดของท่อปัสสาวะจะถูกวางให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องตามหลักกายวิภาคเพื่อให้การปัสสาวะของคนไข้เป็นไปในรูปแบบตามธรรมชาติของผู้หญิง ในขณะที่เนื้อเยื่อ Corpus Spongiosum ทั้งหมดจะถูกกำจัดออกไปเพื่อป้องกันการเกิดเลือดคั่งที่เนื้อเยื่อบริเวณใต้ท่อปัสสาวะในขณะถูกกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ ซึ่งอาจส่งผลกับรูปลักษณ์ความสวยงามของปากช่องคลอดและอาจทำให้เกิดหดตัวของปากช่องคลอดได้
- Vaginal Opening (ปากช่องคลอด) และ Posterior Fourchette
Vaginal Opening จะอยู่ระหว่าง Labia Minora ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากผิวหนังจากองคชาตและฝีเย็บ โดยรูปทรงที่เหมาะสมที่สุดของ Vaginal Opening คือลักษณะแนวตั้ง ไม่ใช่ลักษณะของรูที่มีขนาดใหญ่ นอกจากนี้แพทย์ยังสามารถ Posterior Fourchette ได้อีกด้วย
- Vagina (ช่องคลอด)
Vagina เป็นส่วนที่มีลักษณะคล้ายท่อ เริ่มตั้งแต่จุด Vaginal Opening ไปจนถึงบริเวณส่วนที่ลึกที่สุดของช่องคลอด โดยโพรงช่องคลอดมักถูกสร้างจากผิวหนังที่ได้รับการปลูกถ่ายมา สามารถนำผิวหนังจากถุงอัณฑะหรือบริเวณต้นขามาใช้ได้ ช่องคลอดจากการศัลยกรรมแปลงเพศที่ใช้ผิวหนังจากการปลูกถ่ายจะมีความสามารถในการหล่อลื่นด้วยตัวเองได้จากต่อมข้างท่อปัสสาวะและต่อมคาวเปอร์ นอกจากนี้ การกระตุ้นจุด G-spot (รอบต่อมลูกหมาก) จะช่วยส่งความรู้สึกทางเพศไปภายในช่องคลอดและทำให้สามารถถึงจุดสุดยอดได้ ด้วยเทคนิคการศัลยกรรมแปลงเพศของนายแพทย์เชฏฐวุฒิ ความลึกของช่องคลอดมักอยู่ที่ประมาณ 6 – 7 นิ้ว โดยขนาดองคชาตของคนไข้ก่อนการศัลยกรรมไม่มีความเกี่ยวข้องกับความลึกของช่องคลอดแต่อย่างใด
เทคนิคการปลูกถ่ายผิวหนังสำหรับการศัลยกรรมแปลงเพศ
โดยปกติ แพทย์จะใช้หนังจากถุงอัณฑะเป็นหลักในการปลูกถ่ายผิวหนังสำหรับการสร้างโพรงภายในช่องคลอด แต่สำหรับคนไข้ที่มีหนังจากถุงอัณฑะไม่มากพอ ซึ่งอาจเป็นผลจากการตัดลูกอัณฑะ การได้รับฮอร์โมนทดแทนหรือปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการหดตัวของถุงอัณฑะ แพทย์สามารถนำผิวหนังจากบริเวณต้นขามาใช้ร่วมกับหนังจากถุงอัณฑะเพื่อการปลูกถ่ายผิวหนังในปริมาณที่ต้องการได้ โดยการนำผิวหนังจากบริเวณต้นขาจะไม่ก่อให้เกิดแผลเป็นใด ๆ เพราะผิวหนังส่วนที่ถูกใช้จะอยู่ถัดจากบริเวณที่ทำศัลยกรรม
ด้วยประโยชน์อันหลากหลายของเทคนิคการศัลยกรรมแปลงเพศแบบ Non-Penile Inversion ร่วมกับการปลูกถ่ายผิวหนังจากถุงอัณฑะและต้นขา แม้คนไข้ที่มีองคชาติสั้นหรือมีผิวหนังจากถุงอัณฑะไม่เพียงพอก็สามารถได้รับผลลัพธ์การศัลยกรรมที่สวยงามและได้ความลึกของช่องคลอดที่อยู่ในระดับที่ดีเยี่ยมได้
- การเตรียมการปลูกถ่ายผิวหนัง
ขั้นตอนการปลูกถ่ายผิวหนังจะเป็นไปอย่างประณีต เนื่องจาก เนื้อเยื่อปลูกถ่ายจากถุงอัณฑะและต้นขาจะถูกเปลี่ยนให้เป็นเนื้อเยื่อบุช่องคลอด โดยส่วนบนของชั้นหนังแท้จะถูกรักษาไว้เพื่อรักษาความแข็งแรงของผิวหนัง
การทำให้มั่นใจว่าผิวหนังที่ได้รับการปลูกถ่ายจะไม่มีขนหลงเหลือเลย 100% ผิวหนังที่เตรียมไว้จะถูกตรวจสอบซ้ำด้วยการส่องไฟ รากขนที่เหลืออยู่จะถูกถอนออกทั้งหมดอย่างละเอียด ก่อนที่เนื้อเยื่อจะถูกสอดเข้าภายในช่องคลอดที่ถูกสร้างใหม่ ความยาวของเนื้อเยื่อบุช่องคลอดจะถูกคำนวณให้เท่ากับความลึกของช่องคลอด มักอยู่ที่ 6.5 – 7 นิ้ว ซึ่งเป็นตัวเลขเฉลี่ยของความลึกของช่องคลอดจากการศัลยกรรมเทคนิค Non-Penile Inversion โดยนายแพทย์เชฏฐวุฒิ
ผ้าก๊อซจะถูกใส่ไว้ภายในช่องคลอดเป็นเวลา 6 – 7 วัน เพื่อให้เลือดสามารถไปเลี้ยงผิวหนังที่ได้รับการปลูกถ่ายได้ ตารางการขยายช่องคลอดหรือการทำไดเลชั่นภายใต้การดูแลของพยาบาลจะเริ่มขึ้นในวันแรกหลังจากที่นำผ้าก๊อซออกจากโพรงช่องคลอด และผิวหนังที่ได้รับการปลูกถ่ายมีความแข็งแรงและยึดติดกับเนื้อเยื่อภายในช่องคลอดเป็นอย่างดีแล้ว
การใช้เทคนิค Non-Penile Inversion ร่วมกับการปลูกถ่ายผิวหนังเป็นเทคนิคการศัลยกรรมแปลงเพศที่น่าเชื่อถือ ผลลัพธ์ของการศัลยกรรมจะออกมาดีเยี่ยม ไม่เพียงอวัยวะเพศจะมีความสวยงามและเป็นธรรมชาติ คนไข้ยังสามารถรับความรู้สึกต่าง ๆ และได้ความลึกของช่องคลอดที่น่าพึงพอใจอีกด้วย